ผอ.3

นายเอกไผท  แก้วหอม

ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดปราสาท

(ปราสาทพิทยา)

    กิจกรรมวันวิสาขบูชา

 ของโรงเรียนวัดปราสาท(ปราสาทพิทยา) ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี

กิจกรรมแรกในปีการศึกษา 2562 ผู้อำนวยการ คณะครู นักเรียน และผู้ปกครอง ร่วมกันทำบุญตักบาตร และเวียนเทียน ณ วัดปราสาท เนื่องในวันวิสาขบูชา ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 ตรงกับกับวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖

1234

ในฐานะที่เป็นพุทธสานิกชนคนหนึ่ง  ใคร่ขอสืบสาวรายเรื่องประวัติความเป็นมาของวันวิสาขบูชา  มาเล่าสู่กัน  ดังนี้
             วันวิสาขบูชา ตรงกับวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ หรือราวๆ เดือนพฤษภาคม แต่หากตรงกับปีอธิกมาสคือ 

มีเดือน ๘ สองหน วันวิสาขบูชาจะเลื่อนไปเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ กลางเดือน ๗ หรือราวเดือนมิถุนายน 

 วิสาขบูชา ย่อมาจากคำว่าวิสาขปุรณมีบูชาแปลว่า การบูชาพระในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ (คือเดือน ๖) 
มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น ๓ ประการ ในวันวิสาขบูชา ดังนี้

ประสูติ

          ๑. เป็นวันประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะณ ลุมพินีสถาน เมื่อ
วันเพ็ญเดือน ๖ ตรงกับวันศุกร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ ปีจอ ก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี  
เมื่อพระนางสิริมหามายา พระมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะ แห่ง
กรุงกบิลพัสดุ์ ทรงพระครรภ์แก่จวนจะประสูติ พระนางได้รับพระบรม
ราชานุญาต จากพระสวามี ให้แปรพระราชฐานไปประทับ ณ กรุงเทวทหะ 
ซึ่งเป็นพระนครเดิมของพระนาง เพื่อประสูติในตระกูลของพระนางตามประเพณีนิยม

              ในสมัยนั้น ขณะเสด็จแวะพักผ่อนพระอิริยาบถใต้ต้นสาละ ณ สวนลุมพินีวัน พระนางก็ได้ประสูติ
พระโอรส ณ ใต้ต้นสาละ ครั้นพระกุมารประสูติได้ ๕ วัน ก็ได้รับการถวายพระนามว่า "สิทธัตถะ" ซึ่งต่อมาพระองค์
ได้ออกบวช จนบรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ (ญาณอันประเสริฐสูงสุด) สำเร็จเป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า 
จึงถือว่าวันนี้เป็นวันประสูติของพระพุทธเจ้า

ตรัสรู้

         ๒. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ อนุตตรสัมโพธิญาณณ ร่มพระศรีมหาโพธิบัลลังก์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม เมื่อวันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี 
        การตรัสอริยสัจสี่ คือของจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ ของพระพุทธเจ้า เป็นการตรัสรู้อันยอดเยี่ยม ไม่มีผู้เสมอเหมือน  วันตรัสของพระพุทธเจ้า จึงจัดเป็นวันสำคัญ เพราะเป็นวันที่ให้เกิด

มีพระพุทธเจ้าขึ้นในโลกชาวพุทธทั่วไป จึงเรียกวันวิสาขบูชาว่าวันพระพุทธ(เจ้า)อันมีประวัติว่า พระมหาบุรุษทรง
บำเพ็ญเพียรต่อไป ที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้น ทรงเริ่มบำเพ็ญสมาธิให้เกิดในพระทัย เรียกว่าการเข้า "ฌาน" เพื่อ
ให้บรรลุ "ญาณ" จนเวลาผ่านไปจนถึง ...
 
    ยามต้น : ทรงบรรลุ "ปุพเพนิวาสานุติญาณ" คือ ทรงระลึกชาติในอดีตทั้งของตนเองและผู้อื่น 
    
ยามสอง : ทรงบรรลุ "จุตูปปาตญาณ" คือ การรู้แจ้งการเกิดและดับของสรรพสัตว์ทั้งหลาย 
    
ยามสาม : ทรงบรรลุ "อาสวักขญาณ" คือ รู้วิธีกำจัดกิเลสด้วย อริยสัจสี่ (ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค)ได้ตรัสรู้เป็น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในคืนวันเพ็ญเดือน ๖  ซึ่งขณะนั้น พระพุทธองค์มีพระชนมายุได้ ๓๕ พรรษา 

         ธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ คือ  อริยสัจ ๔ หรือ ความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ ได้แก่ 
     ๑.  ทุกข์  คือ ความลำบาก ความไม่สบายกายไม่สบายใจ 
     ๒.  สมุทัย คือ เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ 
     ๓.  นิโรธ คือ ความดับทุกข์ และ 
     ๔.  มรรค คือ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งทุกข์ 
           ธรรมะ ทั้ง ๔ ข้อนี้ถือเป็นสัจธรรม เรียกว่า อริยสัจ เพราะเป็นสิ่งที่พระอริยเจ้าทรงค้นพบ เป็นสัจธรรมชั้นสูง 
ประเสริฐกว่าสัจธรรมสามัญทั่วไป

ปรินิพพาน

         ๓. เป็นวันปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าณ ร่มไม้รัง (ต้นสาละ) คู่ ในสาลวโนทยานของมัลลกษัตริย์ ใกล้เมืองกุสินารา เมื่อวันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธศักราช ๑ ปี  วันที่พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่ปรินิพพาน (ดับสังขารไม่กลับมาเกิดสร้างชาติ สร้างภพอีกต่อไป) การปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ก็ถือเป็นวันสำคัญของชาวพุทธทั่วโลกเพราะชาวพุทธทั่วโลก
ได้สูญเสียดวงประทีปของโลก  เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่และครั้งสำคัญชาวพุทธทั่วไปมีความเศร้าสลดเสียใจและอาลัยสุดจะพรรณนา อันมีประวัติว่าเมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้และแสดงธรรม

มาเป็นเวลานานถึง ๔๕ ปี ซึ่งมีพระชนมายุได้ ๘๐ พรรษา ได้ประทับจำพรรษา ณ เวฬุคาม ใกล้เมืองเวสาลี แคว้นวัชชี ใน
ระหว่างนั้นทรงประชวรอย่างหนัก ครั้นเมื่อถึงวันเพ็ญเดือน ๖ พระพุทธองค์กับพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย ก็ไปรับภัตตาหาร
บิณฑบาตที่บ้านนายจุนทะ ตามคำกราบทูลนิมนต์ พระองค์เสวยสุกรมัททวะที่นายจุนทะตั้งใจทำถวาย ก็เกิดอาพาธลง 
แต่ทรงอดกลั้นมุ่งเสด็จไปยังเมืองกุสินารา ประทับ ณ ป่าสาละ เพื่อเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ในราตรีนั้น ได้มีปริพาชก
ผู้หนึ่ง ชื่อสุภัททะขอเข้าเฝ้า และได้อุปสมบทเป็นพระพุทธสาวกองค์สุดท้าย เมื่อถึงยามสุดท้ายของคืนนั้น พระพุทธองค์
ก็ทรงประทานปัจฉิมโอวาทว่า"ดูก่อนภิกษุทั้งหลายอันว่าสังขารทั้งหลายย่อมมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา 
ท่านทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงอันเป็นประโยชน์ของตนและประโยชน์ของผู้อื่นให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด
"
 
หลังจากนั้นก็เสด็จเข้าดับขันธ์ปรินิพพาน ในราตรีเพ็ญเดือน ๖ นั้น

วันวิสาขบูชา จึงนับว่าเป็นวันที่มีความสำคัญสำหรับพุทธศาสนิกชนทุกคน เป็นวันที่มีการทำพิธีพุทธบูชา เพื่อเป็น

การน้อมรำลึกถึงพระคุณของพระองค์ ที่มีต่อปวงมนุษย์และสรรพสัตว์อันหาที่สุดมิได้ 

   จุดมุ่งหมายในการประกอบพิธีในวันวิสาขบูชา เพื่อรำลึกถึงพระวิสุทธิคุณพระปัญญาคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ 
ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีต่อมวลมนุษย์และสรรพสัตว์ อีกทั้งเพื่อเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์
ทั้ง ๓ ประการ ที่มาบังเกิดในวันเดียวกัน และนำหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์มาเป็นแนวทางในการ
ประพฤติปฏิบัติ

 

กิจกรรม (Photo Album)

481721
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
336
696
2035
476479
10754
31178
481721

Your IP: 3.137.220.120
2024-04-19 13:32

ปรัชญา

Method6

คำขวัญ

Method5

เอกลักษณ์

Method4